วันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

อรุณสวัสดิ์

..............

...
.......
มัวม่านหมอก…หลอกตา…ดูพร่าพลาด
มองมุ่งมาด…ลาดลง…ยิ่งสงสัย
มืดมัวทาง…พลางกลัว…สลัวใจ
อโณทัย…ไม่เห็น…วายเว้นวัน

ม่านหมอกหนา…หาใจ…กลับไม่พบ
ความสงบ…รบเร้า…คละเคล้าฝัน
อุษาแสง…แห่งอรุณ…เคยคุ้นกัน
กลับปิดกั้น…ควันออก…มิดหมอกมา

แสงเรืองล้ำ…อำไพ…หายไปหมด
ความรันทด…หดหู่…ผ่านภูผา
เมื่อตะวัน…หันเห…หลายเพลา
ม่านแห่งฟ้า…ราตรี…กลับคลี่ลง

มองทางใด…ไร้แสง…เป็นแรงขับ
ดูลึกลับ…กลับวาง…เพราะพลางหลง
หาทางออก…หมอกใจ…พาให้งง

เพียงพะวง…สงสัย…ไร้ฟ้างาม...
....



กระจกส่องใจ

...... กระจก...ไม่เลือกที่จะสะท้อนภาพทุกชนิด  ฉันใด 
จิตใจ...จงเอาเยี่ยงอย่างกระจก
กระจก...รับรู้   แต่ไม่ยึดถือครอบครอง
ดังนั้น...จึงไม่มีภาพใดใดหลงเหลือติดอยู่ในกระจก
สายฝน...ในกระจก  ก็หาได้เปียกกระจกไม่
เปลวไฟ...ในกระจก  ก็หาได้เผาลนกระจกเช่นกัน 
ทั้งนี้...เพราะกระจกไม่ได้ให้อำนาจแก่สายฝน  และเปลวไฟ
ดังนั้น...จงทำจิตใจของท่านให้เป็นดุจการรับรู้ของกระจก
  
เพราะถ้าหากจิตของท่าน  หลงยึดถือหรือตกเป็นทาสของกิเลสเมื่อใด
ความทุกข์ ความเศร้าหมองใจย่อมตามมาเมื่อนั้น
.........